ตะกร้าของฉัน

ยังไม่มีรายการสินค้าในตะกร้า

ราคาสินค้า

฿ 0
coolsim
coolsim
Podcast
Live Streaming
Content
Playlist
LIVE -
share
มิกกี้ส์ไดเนอร์

มิกกี้ส์ไดเนอร์

อิ๊งค์ Eat All Around

27 ก.ย. 2563
ไก่ทอดกับบิสกิตแบบอเมริกัน
ฮอทดอก(Hot Dog)
ข้าวผัดอเมริกันคอมโบ้ใส่เป็ดกงฟี(AFR Duck Combo)
บิสกิต
มิกกี้ส์ซับ(Mickey’s Sub)
คอร์นบี๊ฟกับมันบด(Corned Beef _ Mash)
ซุปหอยลาย นิวอิงแลนด์แคลมชาวเดอร์
วาฟเฟิลไก่ทอด(Chicken _ Waffles)
ลิ้นวัวกับมันบด(Cured Beef Tongue _ Mash)
ค็อบบ์สลัด(Cobb Salad)
08.00 - 18.00 น. ทุกวัน (ในช่วงสถานการณ์ปกติจะเปิด 11.00 - 24.00 น.)
ชั้น1 อาคาร The Portico 31 ถ.หลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
0-2050-5158
-
https://www.facebook.com/MickeysDinerBkk
-
-

มิกกี้ส์ไดเนอร์

ร้านที่แสดงถึงวัฒนธรรมการกินแบบอเมริกันได้อย่างชัดเจนก็คือ ร้านอเมริกัน ไดเนอร์(Diner) ซึ่งเรามักจะเห็นในหนังฝรั่งคลาสสิก ตกแต่งด้วยสีสันฉูดฉาด มีเคาน์เตอร์ยาวๆกับม้านั่งสตูลแยกกัน มีพนักงานมาคอยเติมกาแฟ เน้นเมนูสไตล์อเมริกันจ๋า เช่น แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟราย ไข่ดาว ไส้กรอก แพนเค้ก มิลค์เชค และมักจะเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ถือเป็นต้นแบบของร้านฟาสต์ฟู้ดยุคใหม่

      ร้านย้อนยุคเรโทรแบบนี้ยังมีหลงเหลือให้เห็นอยู่บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องบินไปไกลถึงอเมริกาหรอก แค่มาที่ร้านดังชื่อว่า มิคกี้ส์ ไดเนอร์ บีเคเค(Mickey s Diner BKK) ก็ได้ลิ้มลองของอร่อยสไตล์อเมริกันไดเนอร์ อันสุดแสนประทับใจจนอยากกลับไปกินแล้วกินอีกเลยทีเดียว

      ร้านมิคกี้ส์ ไดเนอร์ อยู่บนชั้น 1 ของอาคารปอร์ติโก้(Portico) ถนนหลังสวน ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย เป็นของเชฟชาลี กาเดอร์ และหุ้นส่วนชาวไทย ตกแต่งกลิ่นอายอเมริกันสีสันแดงขาว อีกทั้งมีภาพกราฟิตี้ลวดลายการ์ตูนบนฝาผนัง เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและระเบียงด้านนอก

      เมนูอาหารสไตล์อเมริกันมีมากมาย แน่นอนว่าร้านแบบนี้ต้องมีอาหารเช้าที่เสิร์ฟทั้งวันหรือ All Day Breakfast ด้วย ถ้าเลือกไม่ถูกเพราะลานตา ก็ให้สั่ง Mickey’s Breakfast(370 บาท++) มีหลากหลายทั้งไข่ดาว แคนาเดียนเบคอนชิ้นหนาๆ แพตตี้ไส้กรอกหมูทำเองแผ่นกลมๆ มันฝรั่งทอด และบัตเตอร์มิลค์แพนเค้กหนานุ่ม ราดเมเปิลไซรัป มีเนยเค็มหอมๆของฝรั่งเศสสำหรับทาเพิ่มความหอมมันสุดยอด ซึ่งอาหารเช้าเหล่านี้สามารถสั่งเครื่องเคียงอื่นๆเพิ่มเติมได้อีกมากมาย

      เมนูซิกเนเจอร์ที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะก็คือ วาฟเฟิลไก่ทอด(Chicken & Waffles)(390 บาท++) วาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน เห็นสีน้ำตาลเข้มอย่างนั้นไม่ใช่ไหม้แต่เป็นสูตรวาฟเฟิลของที่ร้านนะจ๊ะ ทีเด็ดอยู่ที่ไก่ทอดทำจากสะโพกไก่ออร์แกนิกซึ่งหมักกับเครื่องเทศเช่นเคจุ้น(Cajun)ก่อน จากนั้นแช่บัตเตอร์มิลก์ซึ่งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อยและนำไปชุบแป้งทอด ช่างเป็นไก่ทอดที่กรอบนอกเนื้อในนุ่มชุ่มฉ่ำเสียจริง มีเนยฝรั่งเศสให้ทาวาฟเฟิล ราดด้วยเมเปิลไซรัป และมีน้ำเกรวี่กับซอสพริกโฮมเมดสีแดงๆให้จิ้มไก่ด้วย

      อีกเมนูไก่ทอดกับบิสกิตแบบอเมริกันทำเอง(Friend Chicken & Biscuit with Sausage Gravy(290 บาท) ราดน้ำเกรวีทำจากไส้กรอก แกล้มด้วยหอมดอง แตงดอง พริกดอง กับโคลสลอว์ และซอสพริกโฮมเมด 

      คนชอบกินเนื้อห้ามพลาดเลย ต้องสั่งคอร์นบี๊ฟกับมันบด(Corned Beef & Mash)(550 บาท++) คอร์นบี๊ฟแล่เป็นชิ้นบางๆยาวใหญ่ให้มา 4 ชิ้นจุใจ ทำจากเนื้อเสือร้องไห้หรือบริสเก็ตโคขุนหนองสูง จังหวัดมุกดาหารของไทย หมักในน้ำเกลือนาน 7 วัน รสชาติหอมอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา กินกับมันบดที่เนียนหอมมันเพราะใส่เนยเยอะมาก ราดด้วยซอสเกรวี

      อีกอย่างที่ห้ามพลาดเช่นกันคือลิ้นวัวกับมันบด(Cured Beef Tongue & Mash)(550 บาท++) ทำจากลิ้นวัวโคขุนหมักในน้ำเกลือนาน 30 วัน และนำมาทำให้สุกอย่างช้าๆด้วยวิธีซูวี้ด(Sous-vide)จนนุ่มหอม

      มีเมนูอเมริกันง่ายๆแต่ใส่เครื่องชั้นดีพิถีพิถันอย่างเช่น ฮอทดอก(Hot Dog)(190 บาท++) ใส่ไส้กรอกคีลบาซา(Kielbasa)ซึ่งเป็นไส้กรอกสดผสมเครื่องเทศไม่รมควันชิ้นโตๆยาวๆอร่อยเต็มคำ อีกทั้งแซนด์วิชแบบอเมริกันทรงกระบอกยาวๆที่เรียกว่า ซับ(Sub) หรือซับมารีน(Submarine) ขอแนะนำ มิกกี้ส์ซับ(Mickey’s Sub)(300 บาท++) ใส่ไส้กรอกโชริโซรสจัดสีแดงสวย ไส้กรอกแว่นใหญ่ Mortadella แฮมน้ำผึ้ง และชีสมอซซาเรลล่า

      ต่อด้วยซุปกับสลัดที่มีความเป็นอเมริกันแท้ๆคือซุปหอยลาย นิวอิงแลนด์แคลมชาวเดอร์(New England Clam Chowder Soup) (250 บาท++) ซุปหอยลายข้นๆที่มีกำเนิดจากเขตนิวอิงแลนด์ ทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซุปชนิดนี้จะออกสีขาวๆใส่ครีมและมันฝรั่ง ซึ่งที่ร้านใส่เบคอนเพิ่มความหอมด้วย ส่วนสลัดมีชื่อว่า ค็อบบ์สลัด(Cobb Salad)(390 บาท++) เมนูสลัดจานโตของชาวอเมริกัน แบ่งกันได้ 2-3 คน ประกอบด้วยผักใบเขียว อโวคาโด้ มะเขือเทศ ไข่ต้ม บลูชีส เบคอนและไก่ออร์แกนิกที่แช่บัตเตอร์มิลก์ก่อนนำไปจี่ในกระทะ ราดด้วยน้ำสลัดแรนช์(Ranch)ข้นๆครีมๆ

      ส่วนเครื่องดื่มที่โด่งดังขึ้นชื่อประจำร้านมากๆคือ สตรอเบอร์รีมิลก์เชก(Strawberry Milkshake) (160 บาท++) ใช้ไอศกรีมโยรา(Yora)ราดซอสสตรอว์เบอร์รี แต่งหน้าด้วยคอร์นเฟลก เพรตเซล และเวเฟอร์ สวยทั้งรูปกินก็อร่อย

      ตอนนี้เชฟชาลีออกเมนูใหม่ชื่อเป็นอเมริกันแต่ความจริงคนไทยคิดค้นขึ้นมาเองมีแต่ในเมืองไทยเท่านั้น นั่นก็คือข้าวผัดอเมริกัน ฮ่าๆๆ ข้าวผัดใส่ซอสมะเขือเทศกับลูกเกด โปะด้วยไข่ออนเซนหรือไข่ดาวก็ได้ มีให้เลือกหลายแบบ ซึ่งอยากให้สั่งข้าวผัดอเมริกันคอมโบ้ใส่เป็ด(AFR Duck Combo)(350 บาท++) เพราะนอกจากจะมีท็อปปิ้งเป็นไส้กรอกพริกไทยกับแฮมแล้ว ยังมีสะโพกเป็ดกงฟีที่ทอดในไขมันเป็ดหนังกรอบหอมถูกใจมากอีกด้วย ถ้าไม่กินเป็ดก็มีข้าวผัดอเมริกันคอมโบ้ใส่ไก่ทอด(270++) ชนิดเดียวกับที่กินกับวาฟเฟิล กับข้าวผัดอเมริกันจัมโบ้(440 บาท++) ใส่ทั้งไส้กรอกคีลบาซา ไก่ทอด แฮม เบคอน แพตตี้หมู และคอร์นบี๊ฟอีกด้วย ให้ดูในเมนู อยากสั่งท็อปปิ้งอื่นๆก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นเมนูฮ็อตฮิตติดอันดับไปแล้ว

      และนี่คือเมนูอเมริกันที่เพิ่มเติมเคล็ดลับความอร่อยลงไปอีกล้นเหลือของร้านมิกกี้ส์ไดเนอร์ ในช่วงล็อกดาวน์จะเปิดให้สั่งได้ทาง Line @mickeysdinerbkk 8 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ส่วนในยามปกติจะเปิดให้นั่งกินที่ร้านได้ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน โทร 0-2050-5158

Next song | -
-
Next song | -