ตะกร้าของฉัน

ยังไม่มีรายการสินค้าในตะกร้า

ราคาสินค้า

฿ 0
coolsim
coolsim
Podcast
Live Streaming
Content
Playlist
LIVE -
share
คิมิ(Kimi) โอมากาเสะ ราคาดี มีความคุ้มค่าน่าลิ้มลอง

คิมิ(Kimi) โอมากาเสะ ราคาดี มีความคุ้มค่าน่าลิ้มลอง

อิ๊งค์ Eat All Around

16 พ.ย. 2565
kimiOmakase
 เชฟเอและเชฟแวน
ซาชิมิ ปลาบุรี(Buri)
kimiOmakase
ซูชิหอยเชลล์ฮอกไกโด
 ซูชิชูโทโร่(Chutoro)
เนหงิโทโร่(Negitoro) ท้องปลาทูน่าสับ
kimiOmakase
 ปลาและหอยสำหรับคอร์สโอมากาเสะคืนนี้.
แพ้ปลาบุรี เปลี่ยนเป็นชูโทโร่
ชิเมะซาบะหรือซาบะดองห่อสาหร่าย
ซูชิอกามิ(Akami)
ไข่หอยเม่นยี่ห้อ Maruhiro คนญี่ปุ่นฮิตกันมาก
kimiOmakase
kimiOmakase
 ปลาและหอยสำหรับคอร์สโอมากาเสะคืนนี้.
แพ้ปลาบุรี เปลี่ยนเป็นชูโทโร่
ปลามาไดหรือกะพงแดงญี่ปุ่น ทอดทั้งเกล็ดจนกรอบราดซอสอังกาเกะ
ชิปลาอิชิได(Ishidai)
ข่หอยเม่นบาฟุน(Bafun)และมุราซากิ(Murasaki)
ไอศกรีมรสชาเขียวกับรสสตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก
 เชฟเอ
ปลาและหอยสำหรับคอร์สโอมากาเสะคืนนี้
เอบิครีมโคโรเกะ ให้ทดลองชิม
ซูชิปลาชิมะอาจิ(Shima Aji)
ซูชิปลาโนโดกุโระ Nodoguro
ซูชิหอยปีกนก ฮอกกิไก(Hokkigai)
วันละ 3 รอบ 13.00 น. 18.00 น. และ 19.40 น.(อังคาร-อาทิตย์)
โครงการ 49 Terrace เลขที่ 49 ซ.สุขุมวิท 49 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
096-649-6249
-
-
-
-

คิมิ(Kimi) โอมากาเสะ ราคาดี มีความคุ้มค่าน่าลิ้มลอง

มีร้านญี่ปุ่นยอดฮิตประเภทหนึ่งผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดเมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เป็นการรับวัฒนธรรมการชิมของร้านซูชิมีระดับในญี่ปุ่น ซึ่งก็คือร้านซูชิสไตล์โอมากาเสะ(Omakase) อันมีความหมายว่าให้ตามใจเชฟซูชิ มีอะไรดีชั้นเลิศตามฤดูกาลในวันนั้นก็ให้ทยอยทำมาทีละคำทีละจาน

เดี๋ยวนี้มีร้านซูชิโอมากาเสะเกิดขึ้นมากมาย ต่างก็แข่งขันประชันกันนำเข้าปลาชั้นดีจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าราคาต่อหัวย่อมสูงลิ่วหลายพันบาทไปจนถึงเหยียบหมื่น

ซึ่งคราวนี้ภูมิใจนำเสนอร้านโอมากาเสะในบรรยากาศสุดคูล 14 อย่าง ในราคาที่ค่อนข้างสบายกระเป๋าเพียงคนละ 2,499 บาท++ หรือประมาณ 2,941 บาทสุทธิเท่านั้น แต่คุณภาพไม่ธรรมดาคุ้มค่ามาก มีการบ่มปลาทาซอส คัดสรรจับคู่วัตถุดิบเพื่อให้มีรสชาติลงตัว 

ร้านนี้มีชื่อว่า Kimi อยู่ในโครงการเล็กๆชื่อว่า 49 Terrace ริมซอยสุขุมวิท 49 ตรงพื้นที่ด้านนอกกลางแจ้งชั้นล่างข้างบันไดหลัก ใกล้กับร้านกาแฟ Starbucks 

คำว่า Kimi แปลว่าคุณในภาษาไทย เป็นคำเรียกอย่างไม่เป็นทางการ โดยมากผู้ชายมักจะเป็นคนพูดกับเพื่อนฝูงหรือคนที่เด็กกว่า หรือเรียกแฟน

นี่คือร้านโอมากาเสะที่มีบรรยากาศสบายๆผ่อนคลายที่สุดเท่าที่เคยชิมมา ซุ้มไม้สีเหลืองอ่อนกลางแจ้งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่สวนหย่อมตรงกลาง มีเคาน์เตอร์บาร์ให้นั่งล้อม(เป็นตัวแอลได้มากสุดรอบละ 8 คน) โดยมีกันสาดคลุ่มและม่านกั้นยามฝนตก แต่อากาศก็เย็นสบาย เพราะติดตั้งทั้งพัดลมและเครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่อีกด้วย 

เจ้าของร้านนี้คือหนุ่มสาวคนรุ่นใหม่ชาวไทย 3 คนวัยยี่สิบกว่า ชื่อน้องเจนนี่ น้องเจมส์และน้องแพทริค ร่วมกันเปิดร้านมาได้ 6 เดือน มีขาประจำทั้งวัยรุ่นวัยทำงานชาวไทย และชาวต่างชาติ ฝรั่ง เกาหลี ฟิลิปปินส์ แม้กระทั่งชาวญี่ปุ่นที่ทำงานในเมืองไทยก็มาอุดหนุนด้วย

ตอนนี้ Kimi เปิดให้จองคิววันละ 3 รอบ คือ 13.00 น. 18.00 น. และ 19.45 น. ระยะเวลาต่อคอร์สประมาณชั่วโมงกว่า รับได้สูงสุดรอบละ 8 คน(นั่งชิดๆกันหน่อย)

ร้านนี้ได้เชฟเอ เชฟหนุ่มไฟแรงที่ผมเคยรู้ฝีมือการทำซูชิของเขามาแล้ว และมีเชฟแวน ผู้เป็นผู้ช่วย โดยคอนเซปต์โอมากาเสะของ Kimi จะเน้นซาชิมิกับซูชิสไตล์เอโดะ(Edomae) เป็นหลัก(ไม่เน้นสไตล์คัปโปะ Kappo ที่มีเมนูของสุก) ปิดท้ายด้วยซุปกับไอศกรีม รวมทั้งหมด 14 อย่าง

แน่นอนว่าปลาตามฤดูกาลสดอร่อยส่งตรงมาจากตลาดปลาญี่ปุ่นทุกวันอังคารและวันศุกร์ ความโดดเด่นอยู่ที่เชฟนำมาบ่ม(Aged)และจุ่มซอสทาซอสหรือนำไปดอง จนสามารถเพิ่มรสชาติความหอมของตัวปลาออกมาอย่างน่าประทับใจ ถึงแม้ราคาระดับนี้จะไม่สามารถใช้ของหรูอย่างเช่นเป๋าฮื้อมาอยู่ในคอร์สได้ก็ตาม บอกเลยว่ามาร้านนี้แล้วอยากกลับมากินอีกอยู่เรื่อยๆ

เริ่มต้นคำแรกกันด้วยปลาดิบหรือซาชิมิ ปลาบุรี(Buri)จากทะเลแถวจังหวัดคาโกชิมะ(ไม่ใช่เลี้ยงในฟาร์ม) เชฟเอบอกฤดูกาลนี้ปลาบุรีจะเริ่มมีไขมันเยอะกินอร่อย โดยจะบ่มปลา 5 วันจากนั้นไปทำสึเกะ(Zuke) หรือจุ่มในโชยุที่มีรสเค็มเล็กน้อย กินคู่กับชิ้นท้องปลาที่พ่นไฟหรืออบุริ(Aburi)จนหอมๆ โดยจานนี้ได้คนละ 3 ชิ้น ส่วนผมนั้นแพ้ปลาฮามาจิและปลาบุรี จึงได้ท้องปลาทูน่าหรือชูโทโร่(Chutoro)แทน

เชฟเอจัดพิเศษให้ลูกค้าทุกคนได้ลิ้มลองเอบิครีมโคโรเกะ หรือโครเกตต์กุ้งสับราดซอสคิโนโกะทำจากเห็ดชิเมจิ ซึ่งไม่ได้อยู่ในคอร์ส แต่เป็นเมนูสำหรับสั่งกินเล่นที่โต๊ะนั่งดื่มอยู่บริเวณเดียวกัน และต่อไปจะอยู่ในคอร์สใหญ่ที่จะทำเพิ่มเร็วๆนี้ในราคา 4- 5 พันบาทต่อหัว

อย่างที่สองในคอร์สคือ ชิเมะซาบะหรือซาบะดองห่อสาหร่ายไม่ใส่ข้าวซูชิเลย ซึ่งจะนำปลามาบ่ม 6 วัน แล้วดองเกลือ รีดน้ำออก จากนั้นดองน้ำส้มสายชู 1 ชั่วโมงและพัก 1 คืน จนมีรสเปรี้ยวเค็มหอมในตัวอร่อยมาก ให้มา 2 คำ กินหมดในพริบตา

จานที่สามเป็นของสุกที่ชื่นชอบมากๆ ปลามาได(Madai)หรือกะพงแดงญี่ปุ่น นำไปทอดทั้งเกล็ดจนกรอบอร่อยมาก ราดด้วยซอสอังกาเกะ(Ankake)ผสมน้ำปลาแห้งใส่แป้งมัน ใส่ไข่ปลาแซลมอนด้วย

จากนั้นจะเริ่มเสิร์ฟซูชิหรือข้าวปั้น ซึ่งปลาทุกอย่างจะผ่านการบ่ม โรยเกลือ รีดน้ำออก เริ่มด้วยซูชิปลาชิมะอาจิ(Shima Aji) ที่มีรสชาติเค็มเปรี้ยวอมหวานหอมอร่อย ต่อด้วยซูชิหอยเชลล์ฮอกไกโดขนาดเล็กแต่พอดีคำโตๆ ที่ใช้มีดตะกุยจนกลายเป็นดอกไม้บาน เพื่อให้ซอสได้ซึมซับมีรสชาติทั่วถึง บีบมะนาวเหลืองเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่น

คำที่ 6 เป็นซูชิอกามิ(Akami) เนื้อแดงปลาทูน่าสึเกะหรือจุ่มโชยุปรุงรสนาน 5 นาที จนมีรสชาติในตัว

คำที่ 7 ซูชิปลาอิชิได(Ishidai)หรือกะพงลายดำ มีเอ็นด้วยเนื้อเด้งหนึบอร่อย ข้าวซูชิแตะด้วยผิวยูสุเพิ่มความหอม   

คำที่ 8 คือของโปรดผม ซูชิปลาโนโดกุโระ Nodoguro หรือปลากะพงสีชมพูจากญี่ปุ่น มีอีกชื่อว่าปลาคอดำ เพราะข้างในคอปลาจะเป็นสีดำเนื่องจากกินสาหร่ายน้ำลึก มีเนื้อสีขาวนุ่มหอมมัน พ่นไฟเพิ่มความหอมเป็นทวีคูณ ทาด้วยมัสตาร์ดจากจังหวัดยามากุจิ(Yamaguchi)

ต่อด้วยคำที่ 9 ของโปรดผมเช่นกัน ซูชิชูโทโร่(Chutoro) ท้องปลาทูน่าชิ้นปลามัน บ่มและจุ่มซอสจนอร่อยหอมมันมีรสชาติมากๆ ผมชอบชูโทโร่มากกว่าโอโทโร่ ซึ่งจะมีความมันเยอะๆ

คำที่ 10 คือไฮไลท์สุดโปรด อูนิ(Uni) ไข่หอยเม่นทั้งชนิดบาฟุน(Bafun)สีส้มๆและมุราซากิ(Murasaki)สีเหลืองอ่อน โปะบนข้าวในถ้วยเล็กๆ นัวหอมมันอย่าบอกใคร เชฟเอบอกว่าไข่หอยเม่นยี่ห้อ Maruhiro นี้ คนญี่ปุ่นฮิตกันมาก เนื้อครีมๆหวานมันจริงๆ เข้ากันดีกับวาซาบิที่มีความฉุนเล็กน้อย

จากนั้นเปลี่ยนจากปลามาลิ้มลองหอยกันบ้าง กับซูชิหอยปีกนก ฮอกกิไก(Hokkigai) เนื้อหวานกรอบ บีบมะนาวนิดหน่อยเพิ่มความสดชื่น ก่อนจะปิดท้ายด้วยเนหงิโทโร่(Negitoro) ท้องปลาทูน่าสับ กินกับตาก้วง หัวไชเท้าดองและต้นหอม ใส่ข้าวซูชิ ห่อด้วยสาหร่ายเป็นม้วนยาวๆ ใช้มือจับกินได้เลย

พอจอบคอร์สก็จะเสิร์ฟซุปให้ล้างปากตามธรรมเนียม ซึ่งคืนนี้ถูกใจมากๆ เป็นซุปที่รสชาติเข้มข้นจนอยากขอเพิ่มอีกถ้วย ทำจากเศษปลาและกระดูกปลาย่าง ใส่ชิ้นปลาเล็กๆ

อย่างที่ 14 ปิดท้ายด้วยไอศกรีม มีให้เลือกระหว่างรสชาเขียวกับรสสตรอว์เบอร์รีชีสเค้ก มีครัมเบิ้ลกรอบๆด้วย โดยน้องแพทริคซึ่งทำไอศกรีมโฮมเมดกับเพื่อนอยู่แล้ว ครีเอท 2 รสชาตินี้ให้ร้านคิมิโดยเฉพาะ

สรุปว่านี่คือค่ำคืนแสนประทับใจ ไม่เคยเจอการกินซูชิโอมากาเสะที่ผ่อนคลายสุดคูลเช่นนี้ที่ไหนมาก่อนเลย อย่ารอช้าจองล่วงหน้าได้ที่ Line @kimisushibar หรือโทรหาที่เบอร์ 096-649-6249 ขอย้ำว่ามีวันละ 3 รอบๆละไม่เกิน 8 คน หยุดทุกวันจันทร์นะจ๊ะ

Next song | -
-
Next song | -