Alexander’s German Eatery

      เห็นชื่อร้านก็บอกเป็นนัยแล้วว่าเจ้าของร้านซึ่งเป็นเชฟประจำร้านด้วย มีชื่อว่าอเล็กซานเดอร์ ฟอน วนุก-ลิปินสกี้ (Alexander Von Wnuk-Lipinski) ผู้สืบเชื้อสายจากขุนนางโบราณยุคกลาง(เชิญไปดูตราประจำตระกูลขุนนางหรือ Coat of Arms ได้ที่หน้าประตูทางเข้า) โดยคุณอเล็กซานเดอร์มาจากเมืองฮันโนเวอร์ (Hanover) ของเยอรมัน

      เชฟอเล็กซานเดอร์มีประสบการณ์ทำร้านอาหารมานานกว่า 25 ปีที่เยอรมัน ออสเตรีย และออสเตรเลีย เคยเป็นเชฟใหญ่และผู้จัดการร้านเยอรมันในตำนานชื่อดังของกรุงเทพฯ Bei Otto อีกด้วย ซึ่งคนรุ่นผมที่ชื่นชอบในอาหารเยอรมันต่างรู้จักกันดี

      ในที่สุดเชฟอเล็กซานเดอร์ก็ออกมาทำร้านเป็นของตัวเองได้ 3 ปีกว่า(เริ่ม 18 พ.ค. 2561) ถ้ามาจากถนนเอกมัย ให้เลี้ยวที่แยกเจริญใจ เข้าซอยเอกมัย 12 มาเพียง 400 เมตร ร้านเยอรมันแห่งนี้จะอยู่ทางซ้ายมือมีป้ายชื่อร้าน Alexander s German Eatery สีน้ำเงินเห็นได้ชัดเจน สำหรับที่จอดรถนั้นถ้าเป็นวันอาทิตย์ให้จอดในซอยข้างร้านฝั่งซ้ายมือได้(ด้านที่มีพุ่มไม้) ส่วนวันจันทร์-เสาร์นั้น ถ้าเป็นช่วงปกติไม่มีเคอร์ฟิวก็จอดรถในซอยข้างๆได้หลังสองทุ่ม

      ที่หน้าร้านมีลานเล็กๆมีหลังคาคลุมเหมาะสำหรับนั่งในยามเย็นหรือช่วงหน้าหนาว ด้านในจะจัดโต๊ะส่วนใหญ่อยู่บนชั้น 2 มีมุมเตาผิงจำลองเสมือนจริง ติดเขากวางเหนือเตาให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในยุโรป

      เมนูอาหารเยอรมันที่นี่เน้นแต่ของอร่อยทั้งนั้น ขอแนะนำเมนูซิกเนเจอร์ซึ่งผมยกนิ้วให้ ห้ามพลาดเป็นอันขาดคือ ขาหมูเยอรมัน(795 บาท++) หรือที่เรียกว่าชไวนส์ฮัคเซอะ(Schweinhaxe) สูตรนี้เหมือนกับที่เยอรมัน เพราะไม่ได้เอาไปทอดเหมือนร้านในไทยทั่วไป แต่เชฟอเล็กซานเดอร์จะใช้วิธีตุ๋นกับเครื่องเทศเครื่องปรุง เช่น caraway seeds หรือเมล็ดยี่หร่า กระเทียม เกลือ พริกไทย จากนั้นจะนำไปย่างจนหนังกรอบ เนื้อข้างในนุ่มหอม มีน้ำเกรวี่ทำจากเบียร์และแครอท หัวหอม กระเทียม เซเลอรี อีกทั้งมีน้ำจิ้มซีฟู้ดถูกใจคนไทย กินคู่กับกะหล่ำปลีดอง หรือเซาเออเคราท์ (Sauerkraut) และมันบด ลืมบอกไปว่าต้องสั่งจองขาหมูเยอรมันล่วงหน้า 1 วัน (ที่เบอร์ 09-7049-6954 0-2116-5750)เพราะต้องใช้เวลาในการทำ

      ของดีเยอรมันที่ขาดไม่ได้คือไส้กรอก ควรสั่งไส้กรอกย่าง 3 อย่าง(380 บาท++) ได้ชิมหลากหลายทั้ง บราทวูรส์ท(Bratwurst) ทำจากเนื้อหมูผสมเนื้อไก่ ฟาร์มเมอร์(Farmer)ทำจากหมูผสมเนื้อวัว ใส่เครื่องเทศเช่นลูกจันทน์กับมาจอร์แรม(Marjoram) และเนิร์นแบร์ก (Nürnberg) หรือนูเรมเบิร์ก(Nuremberg) ยาวๆเรียวๆเหมือนนิ้วมือ ทำจากเนื้อหมูและกระเทียม แกล้มกะหล่ำปลีดอง หรือเซาเออเคราท์ (Sauerkraut) ซึ่งเราขอซอสเคอรี่วูรส์ท(Currywurst) ยอดฮิตของเยอรมัน มีส่วนผสมของผงกะหรี่และซอสมะเขือเทศมาจิ้มกินด้วย

      ชาวอิตาเลียนมีพาสต้า คนเยอรมันก็มีชเปท์สเลอะ(Spätzle) พาสต้าที่มีส่วนผสมของแป้งและไข่ รูปทรงเป็นก้อนเล็กๆมีเกลียว มีต้นกำเนิดจากแคว้นสเวเบียน(Swabian)ทางตอนใต้ของเยอรมัน เมนูเด็ดคือ ชเปท์สเลอะ(Spätzle)ผัดกับชีส โรยหน้าด้วยหัวหอมทอด(Swabian Souffle Pasta(Spätzle) (320 บาท++) 

      เมนูชีสๆหอมมันมีรสมีชาติ ต้องลอง Jalapeno poppers (5-10-20 ชิ้น 110-190-330 บาท++) คือพริกฮาลาเพญโญ่ดองคลุกกับเบคอนและชีสชุบเกล็ดขนมปังทอด มีครบรสทั้งเผ็ดเปรี้ยวหอมมัน

      อีกอย่างที่ผสมชีสเป็นเมนูสัญชาติสวิสซึ่งคนไทยชอบสั่งกันมาก พอร์ค กอร์ดองเบลอ(Pork Cordon Bleu) หมูสอดไส้แฮมและชีสกรูแยร์ (Gruyeres) ชุบเกล็ดขนมปังทอด เวลาตัดจะเห็นชีสเยิ้มๆไหลออกมาทีเดียว กินคู่กับแยมแครนเบอร์รี สามารถสั่งพร้อมเครื่องเคียงได้สามแบบคือเสิร์ฟพร้อมเฟรนช์ฟราย(400 บาท++) มันฝรั่งผัด(430 บาท++) และชเปท์สเลอะซอสเห็ด(490 บาท++)

      ส่วนเมนูพาสต้าสไตล์อิตาลีก็มีเช่นกัน คือราวิโอลีไส้ผักแรดิคิโอ้(Radicchio) ซอสครีมเห็ด(340 บาท++)หอมกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิล ตอนนี้เชฟอเล็กซานเดอร์มีเมนูดีลิเวอรีหลากหลายออกใหม่ในชื่อแบรนด์ร้านออนไลน์ว่า Dumpling Bangkok โดยสั่งกินที่ร้านได้ด้วย เมนูอร่อยคือเกี๊ยวยัดไส้หมูหรือพอร์คดัมปลิ้งหลายสัญชาติ ซึ่งพอร์คดัมปลิ้งสไตล์เยอรมัน(8 ชิ้น 185 บาท++)เกี๊ยวดัมปลิ้งไส้หมู โรยด้วยเบคอนผัดกับเซาเออเคราท์ กินกับซาวร์ครีมสุดยอดมาก 

      ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด คือแอ๊ปเปิ้ลสตรูเดิล(Apple Strudel)(260 บาท++)แสนอร่อย แป้งเพสตรี้เป็นชั้นบางๆหอมมัน ไส้แอ๊ปเปิ้ลเคี่ยวกับลูกเกดและอัลมอนด์รสหวานอมเปรี้ยวหอมกลิ่นอบเชย กินคู่กับไอศกรีมวานิลลา แนะนำว่าให้สั่งคนละชิ้นไปเลย ฮ่าๆๆ

      ร้าน Alexander s German Eatery เปิดบริการทุกวัน ในช่วงปกติจะเปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม ส่วนช่วงเคอร์ฟิวจะเปิดถึงแค่ 2 ทุ่มเท่านั้น โทรสอบถามได้ที่ 09-7049-6954 และ 0-2116-5750 นะจ๊ะ