
พัฒน์เกาเหลาเนื้อ
อิ๊งค์ Eat All Around


















พัฒน์เกาเหลาเนื้อ
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าถนนราชพฤกษ์ก็มีร้านเกาเหลาเนื้อโดดเด่นไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน ร้านนี้คนชอบกินเนื้อต่างรู้จักกันดีมีชื่อว่า พัฒน์เกาเหลาเนื้อ
อย่างที่เคยบอกไว้ว่าถนนราชพฤกษ์ก็มีร้านเกาเหลาเนื้อโดดเด่นไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน ร้านนี้คนชอบกินเนื้อต่างรู้จักกันดีมีชื่อว่า พัฒน์เกาเหลาเนื้อ
เจ้านี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน เดิมพี่ชายของลุงพัฒน์เป็นผู้ริเริ่มและหยุดกิจการไปนาน จากนั้นลุงพัฒน์มาทำต่อเกือบ 30 ปีแล้ว เดิมอยู่ที่ปากทางเข้าวัดฉิม(วัดชัยฉิมพลี)ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 และได้ย้ายมาอยู่ริมถนนราชพฤกษ์ตรงปัจจุบันได้ 7 ปี
ทางมาร้านไม่ยาก ตั้งต้นจากสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า ถนนเพชรเกษม มาตามถนนราชพฤกษ์ มุ่งหน้าไปทางถนนบรมราชชนนี โดยให้อยู่ทางคู่ขนานด้านนอกอย่างเดียว ประมาณ 2 ก.ม. ก็จะเห็นป้ายทางเข้าลานจอดร้านพัฒน์เกาเหลาเนื้อทางซ้ายมือ ข้างสะพานข้ามแยกก่อนถึงสี่แยกบางแวก เลี้ยวเข้าไปก็จะเห็นตัวร้านอยู่ในบ้านสองชั้นมีเต๊นท์ด้านข้างให้นั่งด้วย
ขอย้ำว่าให้อยู่แต่ทางคู่ขนานด้านนอก ห้ามขึ้นสะพานต่างระดับบางแวกไปถนนพรานนก-พุทธมณฑลสาย 4 นะจ๊ะ
เห็นชื่อร้านพัฒน์เกาเหลาเนื้อก็รู้แล้วว่าขึ้นชื่อเรื่องเกาเหลาเนื้อ ใส่เนื้อและเครื่องสารพัดอย่าง หอมอร่อยมาก ปรุงน้ำซุปรสชาติเบาๆหน่อย ได้จากน้ำต้มเนื้อ ใส่เนื้อก้อนโตๆตุ๋นแต่เช้ามืดนาน 3-4 ชั่วโมง ใช้วันต่อวัน จะไม่มีรสเข้มซีอิ๊วจนไปกลบรสชาติความหอมของเนื้อวัว อีกทั้งเมนูเนื้ออื่นๆที่ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวก็อร่อยเหลือหลาย เดี๋ยวจะบรรยายให้ฟัง
ทุกวันนี้ลุงพัฒน์ก็ยังมาช่วยที่ร้านอยู่ตลอด โดยยกร้านให้ลูกสาว ลูกชาย ลูกสะใภ้ทำต่อแล้ว ลุงพัฒน์บอกว่ามีเจ้าประจำคัดเนื้อมาให้ตั้งแต่ 30 ปีที่แล้ว
ทีเด็ดของพัฒน์เกาเหลาเนื้อคือมีชิ้นส่วนเนื้อดีๆเหมือนกับพวกร้านตระกูลไร้เทียมทานอันลือชื่อเลยทีเดียว แถมสนนราคายังสบายกระเป๋ามากเมื่อเทียบกับคุณภาพและปริมาณที่ให้
มีเนื้อโกเบ ที่คอเนื้อจะทราบกันดีว่าไม่ใช่เนื้อวากิวญี่ปุ่น แต่เป็นศัพท์แสงที่เรียกเนื้อชั้นดีส่วนที่ติดชายโครงช่วงท้อง หนักแผ่นละประมาณ 2 กิโลกว่า ลุงพัฒน์บอกว่าแต่ละวันมีแค่ 4 ผืนหรือ 4 แผ่นเท่านั้น ดังนั้นเวลามาร้านนี้ควรมาแต่เช้าๆสายๆตั้งแต่ 8 โมงกว่าเป็นต้นไป ช้าหมดอดกิน
ของดีอีก 2 อย่างที่ไม่ควรพลาดคือเนื้อสามชั้นที่อยู่เหนือโกเบ ติดมันนุ่มอร่อย และน่องลายที่หนึบเด้งในปาก อีกทั้งชิ้นส่วนและเครื่องในสารพัดอย่างทั้ง เนื้อสด เอ็น ตับ ไส้ หัวใจ ม้าม ปอด ผ้าขี้ริ้ว ขอบกระด้ง แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีลิ้นกับตัวเดียวอันเดียวแล้ว เพราะไม่ได้ตุ๋นยาจีนหรือใส่เครื่องเทศแรงๆ อย่างที่บอกไป น้ำซุปจะเบาๆเน้นรสชาติเนื้อที่แท้จริง
ลืมบอกไปว่าร้านนี้มีเมนูเฉพาะคนที่กินเนื้อวัวเท่านั้นนะจ๊ะ มีทั้งก๋วยเตี๋ยว เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ (ชามละ 60-80 บาท) ส่วนเกาเหลาเริ่มต้นที่ชามละ 80-100 บาท ที่คนนิยมสั่งกันคือเกาเหลาน่องลาย(100 บาท) เกาเหลาโกเบ(120 บาท)
แต่สำหรับพวกเราชมรมคนกินแหลกต้องสั่งของดีสุดๆคือเกาเหลาหม้อไฟ(250 บาท) ใส่ทั้งน่องลายและโกเบ หรือจะใส่เครื่องอื่นๆก็บอกได้หมด อย่าลืมเอ็นนุ่มแทบละลายในปากกับสามชั้นและตับนุ่มๆนะจ๊ะ กินกับข้าวสวยร้อนๆอร่อยเหาะขึ้นสวรรค์ทีเดียว ยังไม่จุใจเราเลยสั่ง โกเบลวกกับน่องลายลวกเปล่าๆมาอีกอย่างละจาน(จานละ 100 บาท)
พาเหรดของอร่อยเมนูเนื้อยังมีอีกหลายอย่าง ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดต้องรีบมากินแต่ตอนสายๆเพราะเดี๋ยวจะหมดก็คือ แกงเขียวหวานเนื้อ ทำวันละหม้อเท่านั้น เครื่องแกงหอมๆสั่งมาจากร้านประจำ เติมพริกของปักษ์ใต้เข้าไปให้รสจัดๆหอมๆ ใส่ทั้งเนื้อท้อง ชายโครงและสามชั้น เปื่อนนุ่มหอมมันรสชาติเครื่องแกงเข้าเนื้ออร่อยสุดยอด จะสั่งใส่ถ้วยต่างหาก(60 บาท) หรือกินเป็นขนมจีนแกงเนื้อ (50 บาท) ก็ถูกใจมากทั้งคู่
ต่อด้วยเนื้อแดดเดียว(ขีดละ 80 บาท)หอมๆ ที่น้องอาทแห่งเพจเจริญพุงพเนจรบอกว่ายิ่งเจอชิ้นติดมันหน่อยๆเห็นสวรรค์รำไรเลย 5555 เนื้อแดดเดียวจะตากแดด 2-3 ชั่วโมง ปรุงด้วยน้ำปลา เกลือ น้ำตาล และใส่ซอสปรุงรสเพียงเล็กน้อย เนื้อจะได้ไม่ดำ(สูตรนี้ไม่มีน้ำมันหอย)
เท่านี้ยังไม่พอ ยังมีเนื้อปิ้ง(ไม้ละ 12 บาท) ซัดกันไปคนละกี่ไม่ไม่ได้นับ หอมกลิ่นลูกผักชีเบาๆและมีรสหวานแซมเล็กน้อยกำลังพอเหมาะ นอกจากนี้ก็มีลูกชิ้นปิ้งเลือกได้ทั้งลูกชิ้นเนื้อ ลูกชิ้นเอ็น
นี่คือร้านที่พอเอ่ยถึงก็อยากพุ่งตัวกลับไปกินอีกตอนนี้เลย ร้านพัฒน์เกาเหลาเนื้อเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงบ่าย 4 โมงเย็น โทร 09-4792-5173 แต่ขอเตือนว่าให้รีบไปตั้งแต่ตอนสายๆ จะได้กินครบหมดทุกสิ่งนะจ๊ะ
แนะนำ เกาเหลาเนื้อใส่เครื่องสารพัด เช่น น่องลาย โกเบ สามชั้น เอ็น ตับ
สั่งเป็นเกาเหลาหม้อไฟ ใส่น่องลาย โกเบ และเครื่องอื่นๆ
แกงเขียวหวานเนื้อ เนื้อแดดเดียว เนื้อปิ้ง