
เอกฉันท์
อิ๊งค์ Eat All Around





























เอกฉันท์
มาเชียงใหม่ปีนี้มีร้านที่เปิดมาได้เพียงปีกว่าเมื่อเดือนธันวาคม 2565 แต่สามารถนำเสนออาหารไทยโบราณกับอาหารไทยพื้นบ้าน 4 ภาคได้เป็นอย่างดี เจ้าของร้านมีความใส่ใจใฝ่หาความรู้จนนำเมนูไทยโบราณซึ่งมีมานานนับร้อยปี กลับมาเผยแพร่ใหม่ให้ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง ร้านนี้มีชื่อว่าเอกฉันท์
ร้านเอกฉันท์ ได้ชื่อมาจากเจ้าของร้าน เอกพล พิชวงค์ แรกเริ่มที่ไปค้นพบร้านนี้ ตอนนั้นเป็นเพียงร้านเล็กๆมีแค่ไม่กี่โต๊ะ อยู่ในโครงการบ้านโบราณเชียงใหม่ Ancient House Chiangmai จนกระทั่งในปีนี้ได้ทำร้านใหม่กว้างขวางขึ้น รับลูกค้าได้มากถึง 16 โต๊ะ โดยย้ายไปอยู่ชั้นล่างของบ้านโบราณในบริเวณเดิม ริมถนนเจริญประเทศ ก่อนถึงแยกสะพานที่เรียกว่าขัวเหล็ก เลยโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ มานิดเดียว อยู่ทางด้านขวามือเช่นเดียวกัน
ซึ่งเป็นที่น่ายินดีว่าช่วงปลายปีที่ผ่านมาร้านเอกฉันท์ได้มิชลินบิบกูมองด์ 2024 ของจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย
ร้านเอกฉันท์จะเน้นวัตถุดิบจากชุมชนและภูมิปัญญาอาหารไทยพื้นบ้าน เช่น วัตถุดิบจากตลาดชุมชนบ้านฮ่อ ไส้อั่วของคุณแม่จากสันทราย ปลาแดดเดียวของชาวสิงห์บุรีที่ย้ายมาอยู่เชียงใหม่ ปลาและของทะเลจากประมงพื้นบ้านในจังหวัดตราดและปัตตานี รวมทั้งข้าวออร์แกนิกจากสุขใจฟาร์มของพี่ชายหุ้นส่วน มีทั้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ และข้าวหอมมะลิ
เมนูไทยของเอกฉันท์มีหลากหลาย เริ่มกันด้วยแกงไทยโบราณที่กลับมามีชีวิตชีวาใหม่ เช่นแกงรัญจวนหมูและเนื้อ(169-249 บาท) แน่นอนว่าน้องเอกต้องตำน้ำพริกกะปิใส่ในแกงเองแกงไก่สิงหล(249 บาท) เอกบอกว่าได้ดูสูตรของเชฟเอียนที่หอมมาก เน้นเครื่องเทศเช่นลูกจันทน์เทศ กระวาน ลูกผักชี ยี่หร่า อบเชย เป็นต้น สันนิษฐานว่าดัดแปลงมาจากแกงของชาวสิงหลที่อพยพมาจากศรีลังกา สมัยรัชกาลที่2 อีกทั้งแกงระแวงเนื้อ(269 บาท) น้ำขลุกขลิกข้นๆสีออกเหลืองๆ น้องเอกนำเนื้อวัวมาตุ๋นกับเครื่องแกงคล้ายแกงเขียวหวาน โดยเพิ่มขมิ้น พริกไทย และตะไคร้ โขลกใบโหระพาสดๆลงไป
ต่อด้วยเมนูพื้นถิ่นต่างๆ ที่น่าสนใจคือผัดห่อวอ(199 บาท)ใส่เนื้อวัวหรือเนื้อหมู พืชสมุนไพรของชาวปกาเกอะญอและอาข่า เป็นวัชพืชอยู่บนดอย ใบออกสีแดงอมม่วง ต้นตรง ดอกสีขาว นำมาใช้ทั้ง 3 ส่วน เอามาตากแห้งเก็บไว้ใช้ เพราะมีปีละสองหน ปรุงด้วยข่า ตะไคร้ หอมแดง พริกแห้ง พริกสด และมีน้ำพริกถั่วอาข่า ใส่ถั่วลายเสือจากแม่ฮ่องสอน หอมและกระเทียมเผา พริกขี้หนูสดเผาและพริกกะเหรี่ยง และมะเขือเทศ ปรุงรสไม่เผ็ดมาก
เมนูจาก 4 ภาคก็มีหลากหลาย รวมทั้งอาหารทะเล นำเสนอในเวอร์ชั่นของน้องเอก เช่นยำส้มโอเมี่ยงปู(349 บาท) เอกบอกว่ามาจากยำส้มโอผสมเมี่ยงคำ ปรุงด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลมะพร้าว น้ำปลาเคี่ยว ใส่หอมแดงผัดน้ำมัน ใส่เนื้อปูชุบแป้งทอดกินกับใบชะพลู หมูพวงน้ำพริกแจ่ว(189 บาท) หมูพวงได้จากคนในชุมชนซึ่งย้ายมาจากขอนแก่น โดยปรับสูตรแจ่วบอง ใส่มะเขือเทศเพิ่มให้มีรสเปรี้ยวอมหวานนิดๆ หมึกผัดเคยสายบัว(269 บาท) ใช้เคยหวานจากเกาะลิบง หมึกผัดน้ำดำ(269 บาท) หมึกกล้วยสดๆไม่ลอกหนังจากจังหวัดตราด ผัดกับหมึกดำสด กุ้งทอดซอสมะขาม(249 บาท) จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด ใช้กุ้งขาวจากตราด ตัวค่อนข้างใหญ่ 14-17 ตัว/กิโล จานหนึ่งได้ 5-6 ตัว ปูนิ่มทอดกระเทียม(299 บาท) ปูนิ่มเนื้อเยอะมันอร่อยได้จากฟาร์มที่ระนอง หมูกรอบผัดพริกลาบ(296 บาท)หอมอร่อย ซึ่งเพื่อนของหุ้นส่วนร้านทำพริกลาบขายต้มกะทิสายบัว(169 บาท)ใส่ปลาทูแม่กลองและเนื้อลูกมะกรูด และหลนปูม้า(658 บาท) ส่วนผัดผักวันนั้นมีเชียงดาผัดไข่(159 บาท) ผักริมรั้วของชาวบ้าน และกะหล่ำปลีผัดปลาเค็ม(149 บาท) หอมอร่อยเค็มกำลังดี จะเห็นได้ว่ามีทุกภาคจริงๆ
ลองมาชิมร้านนี้แล้วจะรู้ว่ามีเอกลักษณ์ความเป็นไทยไม่เหมือนใคร ในเดือนกันยายนร้านเอกฉันท์กำลังจะขยายและย้ายไปอยู่ชั้นบนของบ้านโบราณ รับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นไปอีก เห็นวิวแม่ปิงยามค่ำคืนอีกด้วย ร้านเปิดบริการ 11 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมงครึ่ง และ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม หยุดทุกวันจันทร์เหมือนเดิม ควรโทรจองล่วงหน้าที่เบอร์ 09-7962-6445 นะจ๊ะ เพราะนี่คือร้านยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจริงๆ
แนะนำ แกงรัญจวนหมูและเนื้อ แกงไก่สิงหล แกงระแวงเนื้อ ผัดห่อวอ น้ำพริกคั่วอาข่า ยำส้มโอเมี่ยงปู หมูพวงน้ำพริกแจ่ว หมึกผัดเคยสายบัว หมึกผัดน้ำดำ กุ้งทอดซอสมะขาม ปูนิ่มทอดกระเทียม หมูกรอบผัดพริกลาบ เชียงดาผัดไข่ กะหล่ำปลีผัดปลาเค็ม