
Cross BKK
อิ๊งค์ Eat All Around





























Cross BKK
ร้านเชฟเทเบิ้ลโดยทั่วไป เชฟมักจะคิดค้นเมนูให้ออกมาในแนวร่วมสมัย ใส่ความคิดสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนหน้าตาอาหาร รสสัมผัสและวิธีการกินให้แตกต่างออกไปไม่ธรรมดา
ร้านเชฟเทเบิ้ลโดยทั่วไป เชฟมักจะคิดค้นเมนูให้ออกมาในแนวร่วมสมัย ใส่ความคิดสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนหน้าตาอาหาร รสสัมผัสและวิธีการกินให้แตกต่างออกไปไม่ธรรมดา บางครั้งต้องอาศัยความเข้าใจและตีความในการกิน ซึ่งถูกใจคนรุ่นใหม่และผู้ที่ชื่นชอบความทันสมัยเฟี้ยวฟ้าว
แต่ยังมีร้านเชฟเทเบิ้ลอยู่เจ้าหนึ่งที่ตอบโจทย์เรื่องรสชาติอาหารอร่อยอย่างคุ้นเคย เข้าถึงได้ง่าย เพลิดเพลินกินได้กินดีทั้งปู่ย่าตายายไปจนถึงหลานๆ ร้านนี้มีชื่อว่า Cross_BKK เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม 2565 นี้เอง แต่มีคิวจองยาวเหยียดนานนับเดือน
Cross_BKK คือร้านเชฟเทเบิลอาหารจีน ที่เพิ่มเติมเทคนิคการทำอาหารฝรั่งเศสและมีกลิ่นอายญี่ปุ่นด้วยเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความละเมียดละไม ยกระดับอาหารจีนให้มีรสชาติอร่อยถูกปากคนทุกวัย กินแล้วเข้าใจง่ายไม่เลี่ยน พอได้ชิมแล้วอยากกลับไปกินซ้ำแล้วซ้ำอีก
ร้านนี้คือการผนึกกำลังของทายาทรุ่นที่ 3 ของร้านอาหารจีนรื่นรสอันเก่าแก่กว่า 44 ปี โดยมีพี่ชาย น้องไอซ์-ศิวพล และน้องสาว กุณ-กุณฑิกา ปลื้มธีรวงศ์ นำประสบการณ์ที่เติบโตมาในร้านรื่นรส บวกกับความรู้ด้านการทำอาหารฝรั่งเศสที่น้องกุณไปร่ำเรียนมา
เชฟเทเบิลอาหารจีน 11 คอร์ส ในราคาต่อคน 2888 บาท++นี้มีความคุ้มค่ามาก เพราะสรรหาของทะเลและวัตถุดิบชั้นเลิศทั้งในไทยและทั่วโลกมาปรนเปรอพวกเราอย่างจุใจ
ทำเลที่ตั้งร้านหาไม่ยากเพราะอยู่ตรงข้ามกับภัตตาคารรื่นรสของคุณพ่อคุณแม่ ในโครงการบางกอกสแควร์ ริมถนนพระราม 3 ก่อนถึงซอย 30 อันเป็นที่ตั้งของวัดปริวาศ พอเลี้ยวเข้ามาในโครงการแล้ว ร้านจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ จอดรถแถวหน้าร้านและตามทางได้เลย
ตัวร้านตกแต่งแบบทันสมัย มีเคาน์เตอร์ด้านนอกจุได้ประมาณ 10-12 คน เห็นเชฟประกอบเมนูอาหาร และมีห้องส่วนตัวด้านในรับได้อีก 6-8 คน
บอกก่อนว่าพวกเรามาชิมร้านนี้เมื่อตอนกลางปี ซึ่งได้มีการปรับเปลี่ยนเมนูไปบางอย่างแล้ว ตามเทรนด์ของเชฟเทเบิลที่ไม่อยู่นิ่ง แต่ยังคงเมนูซิกเนเจอร์ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าไว้
เริ่มกันด้วย Welcome Drink ชาเก๊กฮวยหิมะดอกตูมของดีมีราคา ที่น้องไอซ์เอาดอกจริงมาให้ดูด้วย ต้มใส่น้ำตาลกรวดเล็กน้อย หอมชื่นใจมาก
เมนูอาหารอย่างแรกคือ ไข่ตุ๋นปูเนื้อเนียนแบบญี่ปุ่นแต่มีรสชาติคุ้นเคยแบบจีนหอมเข้ม นึ่งให้สุกอย่างช้าๆนาน 30-40 นาที เนื้อไข่ตุ๋นยังดิ้นๆอยู่ โรยหน้าด้วยปูไข่คลองโคน 3 ส่วน มีเนื้อหน้าอกขาวๆหวานๆ ก้ามปูรสเข้มหนึบหวาน และไข่ปูสีส้มสุกแบบมีเดียมหนึบอร่อย น้ำซุปใช้การตุ๋นด้วยไอน้ำเทคนิค Double Boiling นาน 12 ชั่วโมง ใส่แฮมยูนนานด้วย
จานถัดมานำเสนอเผือกทอดไส้แพะตุ๋นยาจีน น้องไอซ์บอกว่าปรับมาจากเมนูที่คุณปู่ทำขายวันแรกเมื่อ 44 ปีก่อน กรอบนอกนุ่มในไส้พิวเรเนียนๆแบบฝรั่ง เลือกใช้แต่แกนกลางหัวเผือกนุ่มๆ ผสมกับทั้งหนังและเนื้อแพะตุ๋น ใส่ซอสผงกะหรี่ ราดด้วยซอสบ๊วยหอมกลิ่นข่าป่น อร่อยมากไม่มีกลิ่นสาบแม้แต่น้อย
ต่อด้วยขนมจีบหอยเชลล์จากอเมริกาอร่อยเต็มคำ โรยหน้าด้วยคาเวียร์ปลา lumpfish ของเยอรมัน มีลูกเล่นให้บีบซอสจิ้มเองซึ่งใช้น้ำส้มสายชูบัลซามิคเข้มข้นแบบฝรั่งแทน
เมนูถัดมาเป็นการผสมผสานระหว่างอาหารจีนกับฝรั่งเศสดูว้าวตื่นตาตื่นใจมาก ประกอบด้วยขนมปังบริยอชซึ่งแฟนเชฟไอซ์ทำให้ หั่นเป็นทรงกลมๆทาด้วยยำเกี๊ยมไฉ่สไตล์จีน ปรุงด้วยน้ำมันงา ขิง ข่าและพริก เติมแต่งด้วยดอกเข็มอินเดียกับแวววิเชียร โปะหน้าด้วยฟัวกราส์หรือตับห่านชิ้นโต และราดด้วยซอสจิ๊กโฉ่วเคี่ยวกับน้ำตาลจนเข้มข้น
จากนั้นก็ล้างปากด้วยชาอู่หลงตั้วหงเถาชุ่มคอ เพื่อปรับลิ้นให้เตรียมชิมคอร์สถัดไป
ต่อด้วยเมนูซุปกระเพาะปลาสดที่อร่อยสุดๆ โดยน้องไอซ์จะนำวัตถุดิบชั้นเลิศมาโชว์ก่อน นั่นก็คือกระเพาะปลากะพงขาว(Sea Bass) จากยุโรป กังป๋วยหรือหอยเชลล์แห้ง และสมุนไพรจีนฮ่วยซัวกับเก๋ากี้ ตุ๋นกับซุปกระดูกไก่เเก่เคี่ยวจนมีสีขาวข้น และใช้แฮนด์เบลนเดอร์ตีโฟมซุปไก่เป็นฟองๆด้านหน้าด้วย ขอบอกว่ารสชาติเข้มข้นหอมอร่อยเต็มคำถูกใจมาก
จากนั้นก็ล้างปากด้วยไอศกรีมซอร์เบต์ส้มปรุงแต่งด้วยโป๊ยกั๊กและอบเชย กับใบดาวเรืองกลิ่นซิตรัส
เพิ่งผ่านมาครึ่งทางเท่านั้น คอร์สถัดมาก็น่าสนใจมาก กุ้งลายเสือราดซอส Bisque รองด้วยมันม่วงและแครอต กินกับต้นหอมญี่ปุ่นพิวเรสีเขียวๆและหอมทอด ตัวกุ้งนำไปทำให้สุกอย่างช้าๆด้วยกรรมวิธีซูวี้ดที่อุณภูมิ 54 องศานานครึ่งชั่วโมง ส่วนซอสบิสก์นั้น น้องไอซ์นำเปลือกกุ้งและหัวกุ้งที่เหลือใช้จากร้านรื่นรสมาผัดกับเหล้าจีน ทำสไตล์เอเชียไม่ใส่เนยและครีมเลย
คอร์สอาหารจีนก็ต้องมีปลาด้วย น้องไอซ์นำเสนอปลาดีของเมืองไทย ปลากะรังจุดฟ้า ที่มีชื่อเรียกท้องถิ่นหลายอย่างเช่น ปลาย่ำสวาท ปลากุดสลาด บ่มในถังน้ำแข็ง 2 วัน น้องไอซ์บอกว่าเนื้อแน่นอย่างนี้เหมาะไปทำปลาย่างราดซีอิ๊วมากกว่า โดยจะจี่ด้านหนังปลาในกระทะด้านเดียว แล้วนำไปอบ ราดด้วยซอสซีอิ๊วกับน้ำมันขิง กินกับแครอตพิวเรปรุงรสแบบฝรั่ง แต่งด้วยปะการังกรอบๆทำจากต้นหอม
เมนูถัดมาเป็นสวรรค์ของคนชอบกินเนื้อ สเต๊กเนื้อสันในอาร์เจนตินาเลี้ยงปล่อย(Free Range) เป็นเนื้อแบบแช่เย็น ไม่แช่แข็งด้วย ราดซอสยาจีนกับหมาล่า กินกับมันฝรั่งอบชีส ด้านในคือมอซซาเรลล่า ด้านนอกคือชีสปาร์มีจาโนเรจจาโน หรือพาร์เมซาน รองด้วยแครอต
ปิดท้ายของคาวด้วยเมนูข้าว ข้าวอบเห็ดทรัฟเฟิล แชมปิยอง และเห็ดหอม ใส่เป๋าฮื้อจากเกาะแทสเมเนีย ออสเตรเลีย นุ่มหนึบหอม และมีคะน้าฮ่องกง กับกังป๋วยหรือหอยเชลล์แห้งอบกรอบเส้นฝอยๆ
ส่วนของหวานมาอีก 2 คอร์ส ซึ่งใส่ความคิดสร้างสรรค์ได้น่าประทับใจ ถ้วยแรกคือเต้าทึงใส่ปลิงทะเล ลำไย แปะก๊วยเชื่อม พุทราจีนเชื่อม เม็ดบัว และใบบัวบก
และปิดท้ายด้วยบัวลอยน้ำขิงแบบเย็น เสิร์ฟเป็นจานแนวฝรั่งทันสมัย มีโมจิไส้ไอศกรีมงาดำและครีมน้ำขิงเผ็ดๆ ขนมปังขิงกรอบ และงาดำเพสต์เข้มข้น กินกับชาผูเอ่อร์ชุ่มคอ
มาถึงตรงนี้ ถ้าใครเกิดความอยากชิมลิ้มลอง ร้านนี้เปิดให้จองผ่านไลน์ @cross_bkk เท่านั้น ไม่รับจองทางโทรศัพท์ โดยจะเปิดให้จองที่นั่งของเดือนถัดไปทุกวันที่ 10 ของเดือน เวลา 11.00 น. ซึ่งจะหมดในพริบตาเดียว โดยห้องส่วนตัว 4 – 8 คนนั้นคือการเหมาห้องเท่านั้น
วันพุธ-พฤหัสบดี-เสาร์-อาทิตย์ มี 2 รอบต่อวัน 12.00 น และ 18.30 น. ส่วนวันอังคารและวันศุกร์ มีแต่รอบเดียวตอนเย็น 18.30 น. หยุดทุกวันจันทร์
แน่นอนว่าจะมีการปรับเปลี่ยนเมนูใหม่เรื่อยๆ แต่จะยังคงเมนูยอดฮิตไว้เช่นตับห่านยำเกี๊ยมฉ่าย ซุปกระเพาะปลาสด และกุ้งลายเสือ ส่วนเป๋าฮื้อทำเป็นข้าวต้ม ปลากะรังจุดฟ้านึ่งบ๊วยแทน เนื้อวัวเปลี่ยนเป็นสตูเนื้อบี๊ฟเบอร์กันดี
แนะนำว่าให้ลูกหลานช่วยกันกระหน่ำจองพร้อมกันทุกวันที่ 10 ของเดือน ขออวยพรให้โชคดีได้ลิ้มลองสุดยอดเชฟเทเบิลจีนฝรั่งเศสนะจ๊ะ