
บ้านนวล
อิ๊งค์ Eat All Around



















บ้านนวล
อิ๊งค์ Eat All Around เคยแนะนำร้านอาหารไทยสไตล์โฮมคุกบ้านๆอร่อยล้นเหลือจองคิวยาวข้ามปี ชื่อว่าบ้านนวล ที่ซอยสามเสน 2 ไปเมื่อ 5 ปีก่อน ขอแจ้งให้ทราบว่าหลังจากเปิดมาได้ 7 ปี บัดนี้ร้านบ้านนวลได้ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ไฉไลกว่าเก่าแล้วจ้า อยู่ในตึกแถวโบราณ 2 ชั้น บ้านเลขที่ 37 ริมถนนเฟื่องนคร ถนนเส้นวันเวย์หลังกระทรวงมหาดไทย เลยวัดราชบพิธมาไม่ไกล เพิ่งเปิดใหม่เมื่อ 14 มิถุนายน 2566 นี้เอง
อิ๊งค์ Eat All Around เคยแนะนำร้านอาหารไทยสไตล์โฮมคุกบ้านๆอร่อยล้นเหลือจองคิวยาวข้ามปี ชื่อว่าบ้านนวล ที่ซอยสามเสน 2 ไปเมื่อ 5 ปีก่อน ขอแจ้งให้ทราบว่าหลังจากเปิดมาได้ 7 ปี บัดนี้ร้านบ้านนวลได้ย้ายมาอยู่ที่ใหม่ไฉไลกว่าเก่าแล้วจ้า อยู่ในตึกแถวโบราณ 2 ชั้น บ้านเลขที่ 37 ริมถนนเฟื่องนคร ถนนเส้นวันเวย์หลังกระทรวงมหาดไทย เลยวัดราชบพิธมาไม่ไกล เพิ่งเปิดใหม่เมื่อ 14 มิถุนายน 2566 นี้เอง
ร้านใหม่นี้นั่งสบายและเป็นห้องปรับอากาศ มีครัวเปิดที่น้องยุโชว์ทำอาหารต่อหน้าลูกค้าเลย มีเมนูเด็ดให้เลือกเพิ่มอีกหลายอย่าง สมควรแก่การเชียร์ให้จองมาชิมกันอีกครั้งหนึ่ง
เจ้าของร้านคือสองศรีพี่น้อง มีพี่สาวชื่อยุวรัตน์หรือคุณยุ อดีตติวเตอร์สอนภาษาอังกฤษ เป็นแม่ครัวเอกคนเดียว และน้องชายชื่อทอมมี่หรือน้องมี่ ฟู้ดสไตล์ลิสต์ คอยดูแลหน้าร้าน
ขอกระซิบบอกว่าตอนนี้บ้านนวลมีคิวจองยาวนานทั้งปี 2566 แล้ว ต้องรอให้ทางร้านประกาศวันจองอีกทีทางอินสตาแกรม IG: baannual37 คาดว่าจะเปิดให้จองใหม่ราวต้นเดือนพฤศจิกายน พอถึงวันเวลาจองเมื่อไหร่ ให้รีบ direct message ไปทาง IG ร้านเท่านั้น บอกวันเวลา จำนวนคนที่อยากไป จากนั้นให้สวดมนตร์รอว่าเราจะเป็นผู้โชคดีหรือเปล่า 555 สำหรับผู้ที่เพียรพยายามอยากชิมให้สอบถามคิวหลุดทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือนได้นะจ๊ะ
ร้านบ้านนวลจากเดิมที่ขายแค่วันละ 2 รอบ ก็เหลือเฉพาะรอบเย็นเท่านั้น ตั้งแต่ 17.00 – 20.30 น. โดยเปิดให้ผู้จองคิวได้มารับประทานเหลื่อมเวลากัน ดังเช่นที่คณะเราไปตอน 18.30 น. ก็มีลูกค้ากลุ่มแรกเข้ามาก่อนหน้าตอน 5 โมงเย็น โดยทั้งร้านจะรับได้แค่ 27 คนเท่านั้น ซึ่งมีทั้งหมด 4 โต๊ะ(6 ที่นั่ง 3 โต๊ะ 3 ที่นั่ง 1 โต๊ะ)
ใครที่จองคิวสำเร็จ ก่อนถึงวันนัด 2 อาทิตย์ น้องยุก็จะส่งข้อความมาให้ยืนยันคิวอีกครั้ง พร้อมกับส่งเมนูมาให้ทาง Direct Message ของอินสตาแกรม(คุยถามตอบทางนี้ได้เลย)ว่าจะสั่งอะไรบ้าง ซึ่งต้องสั่งล่วงหน้าให้พอไปเลย สั่งเมนูละกี่จานให้บอกด้วย ปริมาณการสั่งอาหารน้องยุแนะนำว่า ให้เอาจำนวนคนที่ไปคูณ 2 และถ้ากินจุสั่งเพิ่มไปอีกหน่อย เช่นถ้าไป 5 คน ก็ให้สั่งอาหาร 10-15 จาน ต้องส่งเมนูไปตามกำหนดนะจ๊ะ มิฉะนั้นจะถูกยกเลิกคิว
ซึ่งถ้าเป็นกุ้งแม่น้ำ บางครั้งราคาในวันนั้นอาจจะสูงขึ้นจากราคาปกติ 50-100 บาทต่อจาน ซึ่งน้องยุจะทราบตอนไปจ่ายตลาด ก็จะแจ้งลูกค้าก่อนว่ามีการเปลี่ยนแปลง และน้องยุไม่รับทำอาหารห่อกลับบ้านนะจ๊ะ เพราะทำให้ไม่ทันจริงๆ
พอถึงวันเวลานัดหมาย ให้ค้นในกูเกิ้ลแมพส์ว่าบ้านนวล เช็คให้ดีว่าโลเคชันร้านเปลี่ยนเป็นถนนเฟื่องนครแล้วหรือยังนะจ๊ะ (ถ้าไม่ใช่ให้ใช้โลเคชันร้านเจริญศิลป์ เฟื่องนครแทน ซึ่งร้านบ้านนวลจะอยู่ก่อนร้านเจริญศิลป์ 3 ห้องเท่านั้น)
ส่วนใครที่นำรถมาให้ค้นในกูเกิ้ลแมพส์ว่า ลานจอดรถ J Park เสาชิงช้า อยู่ที่ถนนบำรุงเมือง แล้วไปจอดเสียค่าจอดรายชั่วโมงที่นั่น เดินย้อนมาที่ร้านเพียง 200 กว่าเมตรเท่านั้น
เมนูซิกเนเจอร์ยังมีอยู่เช่นเดิม นั่นก็คือกุ้งผัดมันกุ้ง(680 บาท) สูตรมหาชัยของคุณน้า (ซึ่งร้านศรีสุวรรณที่บ้านแพ้วก็มีเมนูคล้ายๆกัน) กุ้งแชบ๊วยผัดทั้งเปลือกเพื่อให้เนื้อข้างในสุกกำลังดีแน่นเด้ง ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ผัดกับมันกุ้งแม่น้ำเพิ่มอีกต่างหากด้วย ราดมาเต็มจานหอมอร่อยเป็นที่สุด
อีกทั้งตับหมูทอดกระเทียมพริกไทย(480 บาท) ที่อร่อยจนฝันถึง รับจากเขียงหมูเจ้าประจำในตลาด นุ่มที่สุดเท่าที่เคยกินมา หนักเครื่องรากผักชีกระเทียมพริกไทย น้องยุบอกว่าต้องซับเลือดออกมาให้มากที่สุด
เมนูห้ามพลาดคือคอหมูทอดน้ำปลา(550 บาท)หอมมัน น้องยุบอกว่าเปลี่ยนจากเดิมที่ใช้หมูสามชั้นมาเป็นคอหมูเพราะเห็นร้านอื่นทำกันเยอะแล้ว เคล็ดลับคือเมนูนี้ใช้น้ำปลาตราสามกระต่ายจากจังหวัดตราด
อีกอย่างที่เปลี่ยนวัตถุดิบเพราะได้ปลาดีกว่าคือปลาอินทรีทอดราดพริกขี้หนู(680 บาท)จากเดิมที่ใช้ปลากะพง ราดด้วยผัดกระเทียมใส่พริกขี้หนู ปรุงด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บนิดหน่อย
อาหารทะเลอื่นๆมีให้เลือกด้วยทั้งเมนูดั้งเดิม เนื้อปูผัดพริกเหลือง(680 บาท) ปูสดมากเนื้อเป็นก้อนๆ รับจากเจ้าประจำที่ตรอกหม้อ ผัดใส่ถั่วฝักยาวกรอบๆ หอมพริกเหลือง และของดีที่เพิ่มมา ข้าวขยำปู(680 บาท) คลุกเครื่องพริก กระเทียม เกลือ และรากผักซี ซึ่งต้องตำในครกให้เข้ากันดีเสียก่อน ปรุงด้วยน้ำปลา มะนาว น้ำตาลปี๊บ ใช้เนื้อกรรเชียงปูม้าสดๆ ถ้ายังไม่จุใจให้สั่งเป็นปูขยำข้าว(1,100 บาท) เพิ่มเนื้อปูอีกเท่าตัว จาก 100 กรัมเป็น 200 กรัม หรือจะสั่งข้าวผัดกากหมู (600 บาท)โรยกากหมูเจียว(ได้จากการเจียวมันหมูแข็งกับเกลือ)กรอบหอมมันมาทั่วทั้งจาน บีบมะนาว ใส่หอมแดงซอยกับพริกขี้หนูสะใจมาก
มาคราวนี้ได้สั่งเมนูใหม่ลาบกรอบ (550 บาท) ต่างกับลาบหมูทอด(550 บาท) ตรงที่จะขยี้เป็นชิ้นเล็กกว่าและทอดจนกรอบทั้งชิ้น และมีของแปลกใหม่แกงเขียวหวานลิ้นจี่ใส่เป็ดย่าง (950 บาท) น้องยุไปเจอตำรับนี้ที่บ้านเพื่อนในอัมพวา แกงใส่ลิ้นจี่อัมพวา เปลี่ยนจากแกงแดงเป็นแกงเขียวหวาน กินกับขนมจีน
และใครที่ไม่กลัวอ้วนต้องลิ้มลองมันเนื้อย่างพริกไทยดำ (650 บาท) รับมันเนื้อแสนอร่อยจากเขียงประจำในตลาด ย่างกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยทั้งขาวและดำ ชุ่มฉ่ำหอมมันไปทั้งปาก
นอกจากนี้ก็มีต้มจืดหัวไชโป๊วกระดูกหมูใส่กากหมูเจียว (400 บาท) ใส่หัวไชโป๊วหวานทำให้น้ำแกงมีรสอมหวานด้วย ก้านคะน้าผัดปลาเค็ม (480 บาท)กรอบทั้งชิ้น ส่วนของเผ็ดมีแกงคั่วชะอมใส่ปลาดุกย่าง (480 บาท) และปลาดุกทอดกรอบผัดพริกขี้หนูสด (480 บาท) ปิดท้ายด้วยกุ้งสับกะปิสะตอ(680บาท) ซึ่งน้องยุบอกว่าเป็นอาหารนอกเมนู พอดีเป็นหน้าสะตอเลยทำให้กินด้วย ผัดกับกะปิเมืองคอน ส่วนเครื่องดื่มที่ร้านนั้นมีน้ำเปล่ากับน้ำอัดลมเช่นเดิม แต่ถ้าต้องการอะไรเพิ่มให้ซื้อมาเองได้ด้วย
สรุปว่ามาร้านบ้านนวลแล้วมีความสุขอิ่มอร่อยเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือนั่งสบายขึ้นมาก ขอเชิญชวนให้คุณผู้ฟังกัดฟันสู้พยายามจองล่วงหน้าให้ได้ รับรองว่าอร่อยคุ้มการรอแน่นอน
แนะนำ กุ้งผัดมันกุ้ง ตับหมูทอดกระเทียมพริกไทย คอหมูทอดน้ำปลา ปลาอินทรีทอดราดพริกขี้หนู เนื้อปูผัดพริกเหลือง ข้าวขยำปู ปูขยำข้าว(เพิ่มปู) ข้าวผัดกากหมู ลาบกรอบ แกงเขียวหวานลิ้นจี่ใส่เป็ดย่าง มันเนื้อย่างพริกไทยดำ ต้มจืดหัวไชโป๊วกระดูกหมูใส่กากหมูเจียว ก้านคะน้าผัดปลาเค็ม แกงคั่วชะอมใส่ปลาดุกย่าง ปลาดุกทอดกรอบผัดพริกขี้หนูสด กุ้งสับกะปิสะตอ