
เจ็บคอบ่อยๆจะมีความเสี่ยงเป็นโรคแผลในคอมั้ยคะ
COOL Clinic
เจ็บคอบ่อยๆจะมีความเสี่ยงเป็นโรคแผลในคอมั้ยคะ
-
อาการเจ็บคอบ่อยๆจนสงสัยว่าจะเป็นโรคแผลในคอ อย่าเพิ่งกังวลจนเกินไปนะคะ
ตอนนี้เรามาทำความรู้จักโรคนี้กันก่อนดีกว่าค่ะ
โรคแผลในคอ หรือที่เรียกว่าเฮอร์แปงไจนา (Herpangina)
โรคเฮอร์แปงไจนา มักระบาดในช่วงฤดูฝน และพบบ่อยในเด็กอายุ 3 ถึง 10 ปี
สาเหตุของโรคเฮอร์แปงไจนา ? โรคนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่อยู่ในกลุ่มคอกแซกกีไวรัสกรุ๊ปเอ
โรคเฮอร์แปงไจนาเป็นโรคติดต่อได้ง่ายมาก เป็นโรคติดต่อจากการคลุกคลีกับผู้ป่วย จากน้ำลาย
จากการไอ จาม และจากมือ เข้าสู่ปาก ทั้งนี้ผู้ป่วยจะมีอาการหลังได้รับเชื้อประมาณ 4 – 14 วัน
ซึ่งผู้ป่วยที่ติดเชื้อจะแพร่เชื้อได้ตั้งแต่วันแรกที่ติดเชื้อไปจนกว่าจะหายจากโรค คือ ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์
นับจากติดเชื้อ
โรคเฮอร์แปงไจนามีอาการ มีไข้เฉียบพลัน ไข้อาจสูงถึง 41 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ปวดตามตัว อาจมีอาเจียน และอาการเด่นคือจะมีอาการเจ็บบริเวณเพดานปากและคอนำมาก่อน ต่อมา
จะมีจุดแดงๆ บริเวณเพดานอ่อน ลิ้นไก่ และอาจมีตุ่มแดงที่ทอนซิล หรือบริเวณในลำคอด้วยก็ได้
ภายใน 24 ชั่วโมง จุดแดงๆ จะกลายเป็นตุ่มแดงขนาดเริ่มต้น 1 – 2 มิลลิเมตร แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำขนาด 2 – 4 มิลลิเมตร อย่างไรก็ตาม ไข้จะลดลงภายใน 2 – 4 วัน แต่แผลอาจคงอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์
การรักษาโรคเฮอร์แปงไจนา รักษาตามอาการ ได้แก่ เช็ดตัวเพื่อช่วยลดไข้
ให้ยาพาราเซตามอล ไม่ต้องให้ยาต้านไวรัส หรือยาต้านจุลชีพ (ยาปฏิชีวนะ)
ยกเว้นในรายที่สงสัยว่ามีอาการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
การให้ยาชากลั้วปาก อาจช่วยในเด็กโตบางคน แต่ส่วนใหญ่ในการดูแลผู้ป่วยเด็กเล็ก
แนะนำให้กินน้ำเย็น นมแช่เย็น เนื่องจากความเย็นทำให้ชาไม่เจ็บเวลากลืน
ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคเฮอร์แปงไจนา ดังนั้น วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ ล้างมือให้สะอาด ระวังการสัมผัส น้ำลาย น้ำมูก ข้าวของเครื่องใช้ของเด็กที่เป็นโรค ซึ่งรวมทั้งของเล่นต่างๆ ด้วย
หากเด็กป่วยให้งดไปโรงเรียน 1 สัปดาห์ค่ะ